วันจันทร์ที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2553
"Spongebob Squarepants"
"Spongebob Squarepants" คือชื่อของฟองน้ำ ซึ่งมีเพื่อนบ้านเป็นปลาหมึก สควิดวอร์ด (Squidward) และเพื่อนสนิทของเจ้าฟองน้ำ เป็นปลาดาว แพ็ททริก (Patrick Star) พวกเขาอาศัยอยู่ในเมืองใต้น้ำแห่ง "Bikini Bottom" ซึ่งเป็นเมืองที่มีลักษณะทางกายภาพเหมือนเมืองทั่วไป มีอาคาร ตึกรามบ้านช่อง มีระบบการคมนาคม มีสนามบิน ฯลฯ จะต่างกันแค่เมืองนี้อยู่ใต้ทะเลเท่านั้นเอง
เจ้าฟองน้ำ บ็อบ มีสัตว์เลี้ยงเป็นของตนเองด้วย เป็นหอยทากน้อย (Gary) ซึ่งเปล่งเสียงร้องคล้ายแมว.. ชีวิตของเขาก็เป็นแบบเรียบง่าย ทำงานเป็นพ่อครัวในภัตตาคารฟาสต์ฟู้ด "Krusty Krab" ร่วมกับปลาหมึกสควิดวอร์ด ที่ทำหน้าที่เป็นพนักงานรับจ่ายเงิน ร้านนี้ผู้เป็นเจ้าของกิจการก็คือ พี่ปูก้ามใหญ่ มิสเตอร์แครบ (Mr. Krabs) ร้านนี้เป็นที่รู้จักกันมาก เสียจนมีร้านคู่แข่ง "Chum Bucket" ที่มี แพลงค์ตอน (Sheldon J. Plankton : "Plankton") เจ้าของกิจการ จ้องจะขโมยสูตรไปเป็นของตนอยู่ตลอด เนื่องจากร้านของแพลงค์ตอนนี้ไม่เคยมีลูกค้าเลย ทางมิสเตอร์แครบเองก็ใช่ว่าจะพิกเฉยต่อเรื่องนี้ เลยสั่งกับพนักงานของตนทุกคนว่า ให้คอยเก็บรักษาสูตรลับซึ่งถือเป็นสมบัติสำคัญของร้านให้ดี อย่าให้ใครมาขโมยไปได้
แต่ในโลกใต้น้ำนี้ ก็ไม่ได้มีแค่สิ่งมีชีวิตที่เกิดมาเพื่ออาศัยในน้ำเท่านั้น กระรอกสาว แซนดี้ (Sandy Cheeks) คือหนึ่งในนั้น เธออาศัยอยู่ในโดมแก้วใต้น้ำซึ่งเป็นบ้านของเธอ ภูมิลำเนาเดิมของเธอคือที่ Texas ถูกส่งตัวมาที่เมือง Bikini Bottom นี้ โดยคำสั่งของใครคนหนึ่ง (ภายหลังมีการเปิดเผยว่าบอสของเธอเป็นลิงชิมแปนซี ในตอนที่ชื่อ Chimp Ahoy) แซนดี้เป็นหนึ่งในคนที่บ็อบรู้จักด้วย จากการที่บ็อบได้ช่วยชีวิตแซนดี้ให้รอดจากหอยกาบยักษ์จอมตะกละ ทำให้แซนดี้ประทับใจและขอเป็นเพื่อนกับบ็อบในเวลาต่อมา
ชีวิตในแต่ละวัน สปอนจ์บ็อบต้องเผชิญกับหลายๆ อย่างในชีวิตของเขา ซึ่งมีทั้งสุข ทุกข์ เรื่องดีๆ เรื่องเครียดๆ หรือเรื่องไม่เป็นเรื่องต่างๆ เหล่านั้นเป็นสิ่งที่คอยให้ประสบการณ์แก่เขา ให้เขาได้เรียนรู้ และเข้าใจกับคำว่า "ชีวิต" สปอนจ์บ็อบใฝ่ฝันไว้ว่าในอนาคต เขาจะเป็นพ่อครัวมือหนึ่งแห่ง Bikini Bottom ให้ได้
My Friend with Spongebob
>> สปอนจ์บ็อบ
SpongeBob Squarepants
นิสัย : รักสนุก มองโลกในแง่ดีมากๆๆ มีความรับผิดชอบ สุภาพ เรียบร้อย จิตใจอ่อนโยน แม้บางครั้งจะดูเหมือนอ่อนแอก็ตาม
งานอดิเรก : พักผ่อน เป่าฟองสบู่เล่น (ส่วนเป็นพ่อครัวนี่ไม่นับ เพราะเป็นงานประจำครับ)
ชอบ : ความสนุก เพื่อน งาน
เกลียด : คนขี้โกง
...ใครเอ่ยที่อาศัยอยู่ในสับปะรดใต้ทะเล สปอนจ์บ็อบนั่นเอง (ใครที่ฟังเพลงตอนเปิดเรื่องคงจะจะกันได้ดี กับท่อนที่ว่า "...Who lives in pineapple under the sea?") เขาทำงานเป็นพ่อครัวในภัตตาคาร "Krusty Krab" ในฐานะที่น่าภาคภูมิเป็นอย่างยิ่ง นั่นคือ "พนักงานดีเด่นประจำเดือน 374 สมัย" เนื่องจากเขาเป็นคนที่มีความรับผิดชอบสูงมาก และซื่อสัตย์ต่อเจ้าของกิจการมาโดยตลอด จึงได้รับความไว้วางใจจนได้เป็นพนักงานดีเด่นอยู่ได้หลายสมัยโดยไม่มีใครมาแทนที่
ความสามารถของสปอนจ์บ็อบนอกจากการทำอาหารแล้ว ก็มีในเรื่องของศิลปะป้องกันตัว (คาราเต้) และเรื่องเล่นๆ อย่างเป่าฟองสบู่ เขาสามารถเป่าฟองออกมาได้หลายรูปร่าง อย่างห่วงยาง เรือดำน้ำ ม้า ตุ๊กตา ฯลฯ (เก่งเนอะ.. )
เราจะได้เห็นเขาปรากฏตัวในตอนแทบจะทุกตอน ในฐานะตัวละครหลักที่สร้างสีสันให้กับเรื่องได้มากที่สุด ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าคุณจะต้องได้หัวเราะดังๆ เพราะเห็นความขาดๆ เกินๆ และอารมณ์ที่สุดจะคาดเดาของเขา อย่างน้อยสักหนึ่งครั้งแน่นอน(ฮา....)
>> แกรี่
Gary the Snail
นิสัย : ซื่อสัตย์ต่อเจ้าของ (คือสปอนจ์บ็อบ)
งานอดิเรก : ไม่มี
ชอบ : เกือบทุกอย่างที่สปอนจ์บ็อบชอบและทำ
เกลียด : คนไม่ดี
...หอยทากที่ตัวขนาดความสูงประมาณจมูกของสปอนจ์บ็อบ ดูภายนอกเหมือนจะไม่ค่อยรู้อะไรสักเท่าไหร่ แต่จริงๆ แล้วฉลาดมาก เพราะสามารถแก้ปัญหาต่างๆ นานาที่สปอนจ์บ็อบเผชิญอยู่ได้ บางปัญหาที่ดูจะหนักหนาก็ยังผ่านไปได้เพราะเขา ถึงจะฉลาดแต่เพราะเขาพูดไม่ได้ ทำได้แค่เปล่งเสียงคล้ายแมว จึงทำให้ถูกมองเป็นหอยทากธรรมดาๆ เท่านั้น
ลองคิดดูเล่นๆ ว่า แทนที่แกรี่จะทำได้แค่ "เมี๊ยวๆ" กับเจ้าของของเขา ถ้าเกิดพูดภาษาคนได้ขึ้นมาคงวุ่นน่าดู อาจจะพูดแต่อะไรๆ ที่คนทั่วไปตามความคิดไม่ทันก็เป็นได้
>> แพททริก
Patrick Star
นิสัย : เป็นคนง่ายๆ ซื่อๆ และติงต๊องอย่างไม่น่าเชื่อ
งานอดิเรก : ไม่ทำอะไรเลย
ชอบ : ของกินทุกชนิด (เป็นพวกตะกละนั่นเอง)
เกลียด : (ไม่ปรากฏข้อมูล)
...ปลาดาวหุ่นลงพุงตัวสีชมพู ผู้ที่เป็นเพื่อนสนิทที่สุดของสปอนจ์บ็อบ ที่อยู่อาศัยของเขาคือ ก้อนหินยักษ์ (จริงๆ น่าจะเรียกแค่ว่า ที่นอน มากกว่า เพราะเห็นใช้นอนอยู่อย่างเดียว) ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากบ้านสับปะรดของสปอนจ์บ็อบนัก ชีวิตในแต่ละวันส่วนใหญ่ ถ้าไม่ได้ไปไหนมาไหนกับสปอนจ์บ็อบ ก็คือไม่ทำอะไรเลย (ขี้เกียจอย่างแรง - -; )
เขาไม่ค่อยจะฉลาดนัก แต่ก็พร้อมอาสาให้คำแนะนำกับสปอนจ์บ็อบยามมีปัญหา ร่วมทุกข์ร่วมสุขด้วยกัน หรือบางทีก็รวมหัวกันทำเรื่องเบ๊อะๆ บ๊องๆ ที่อาจจะทำให้ก่อเกิดปัญหายุ่งๆ กับคนอื่นได้ แต่ถึงยังไงก็ขอให้วางใจได้เลยว่าเขาก็ไม่ได้เป็นคนเลวร้ายแต่อย่างใด
>> สควิดวอร์ด
Squidward Tentacles
นิสัย : สงบเฉย ยิ้มยาก รักสันโดษ
งานอดิเรก : เป่าคลาริเนต (ปี่)
ชอบ : เสียงดนตรี
เกลียด : การถูกขัดจังหวะ บ็อบกับแพ็ททริก (ไม่ถึงกับขั้นเกลียด แค่ไม่ชอบ)
..นายปลาหมึกหกเส้นหนวดผู้นี้ ชื่นชอบในเสียงเพลงเป็นที่สุด เขามีอารมณ์สุนทรีย์กับการเป่าคลาริเนตได้ทุกวัน ในบ้านของเขาที่มีรูปทรงคล้ายโมอาย อยู่คั่นกลางระหว่างบ้านของสปอนจ์บ็อบกับบ้านของแพททริก เขาทำงานเป็นพนักงานรับจ่ายเงินในร้าน "Krusty Krab" ที่เดียวกับที่สปอนจ์บ็อบทำงานอยู่ แต่ดูเหมือนเขาจะไม่ค่อยชอบทำงานนี้เท่าไหร่
ลักษณะนิสัยของสควิดวอร์ด ดูแล้วไม่น่าจะเป็นเพื่อนบ้านที่ดีนัก เพราะเขาชอบมองสปอนจ์บ็อบกับแพททริกเป็นตัวน่ารำคาญเสมอ เขาชอบคิดว่าเพื่อนบ้านทั้งสองของเขารบกวนการเล่นดนตรีของตนอยู่บ่อยๆ และมักจะมีสีหน้ายิ้มเยาะเวลาเห็นคนอื่นๆ เป็นทุกข์ (แต่ต่อหน้า ตีหน้าทำเป็นทุกข์) แม้จะดูนิสัยไม่ค่อยดี แต่ในจิตใจลึกๆ แล้วก็เป็นคนดีมากๆ คงเพราะเหตุนี้ สปอนจ์บ็อบกับแพททริกจึงอยากจะเป็นเพื่อนกับเขา
>> แซนดี้
Sandy Cheeks
นิสัย : เฉลียวฉลาด ดูจริงจัง แต่ที่จริงร่าเริงสุดๆ
งานอดิเรก : เล่นกีฬาหลากหลายชนิด (โดยเฉพาะพวกกรีฑา)
ชอบ : วิทยาศาสตร์ การค้นคว้า
เกลียด : สัตว์ร้ายที่น่าเกลียดน่ากลัวใน Bikini Bottom ทั้งหลาย
...กระรอกสาวสุดสมาร์ท เพื่อนสนิทที่สุดของสปอนจ์บ็อบรองจากแพททริก ดูจะเป็นชาวเมือง Bikini Bottom เพียงผู้เดียวที่ดูแตกต่างจากคนอื่นมาก ทั้งถิ่นภูมิลำเนาเดิมซึ่งอยู่บนบก และการใช้ชีวิตใต้น้ำซึ่งเธอต้องการอากาศอยู่ตลอดเวลา โดยการใส่ชุดประดาน้ำ (ที่รูปร่างเหมือนชุดอวกาศ) แน่นอนว่าบ้านของเธอก็ต้องเป็นบ้านที่มีอากาศด้วย เป็นโดมแก้วเรียกว่า "Treedome" ที่มีต้นโอ๊กขนาดใหญ่ข้างใน เธอเป็นนักวิทยาศาสตร์ที่มาวิจัยเรื่องต่างๆในเมืองใต้น้ำนี้ โดยได้รับการสนับสนุนทุนการวิจัยจากเพื่อนนักวิทยาศาสตร์ 3 คนของเธอ แต่ยังไม่ทราบแน่ชัดเกี่ยวกับจุดประสงค์ที่แท้จริงที่เธอต้องย้ายมาจาก Texas เพื่อมาทำการวิจัย ว่ามีเป้าหมายอะไรกันแน่
เธอได้รู้จักกับสปอนจ์บ็อบครั้งแรก ตอนที่เธอกำลังพยายามเอาตัวรอดจากหอยกาบยักษ์ที่จะกินเธอ สปอนจ์บ็อบได้มาช่วยไว้โดยใช้วิชาคาราเต้ของเขา สู้กับหอยอย่างทุลักทุเล จนในที่สุดก็เอาชนะมันได้เพราะแซนดี้ร่วมมือกันต่อสู้ด้วย เธอชื่นชมสปอนจ์บ็อบเป็นอย่างมากเลยขอเป็นเพื่อนด้วย จากนั้นก็ชวนไปเที่ยวที่บ้านของตน โดยหารู้ไม่ว่า สปอนจ์บ็อบรู้สึกไม่คุ้นเคยกับสภาพแวดล้อมภายในบ้านนี้เลย จนมารู้ภายหลังว่าสปอนจ์บ็อบอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีน้ำ เลยแก้ปัญหาโดยใส่ครอบแก้วที่มีน้ำให้สปอนจ์บ็อบใช้หายใจ
>> มิสเตอร์แครบ
Eugene H. Krabs (Mr. Krabs)
นิสัย : มั่นใจในตนเอง หยิ่งในศักดิ์ศรี หน้าเงิน ขี้ระแวง บางครั้งก็ดูวิตกจริต
งานอดิเรก : ไม่มี
ชอบ : งาน เงินทอง
เกลียด : แพลงค์ตอน (เข้ากันไม่ได้เลย ดั่งขมิ้นกับปูน)
..ปูแดงก้ามใหญ่ผู้ร่ำรวย จากการมีกิจการร้านภัตตาคาร "Krusty Krab" ที่ใครๆ ในเมืองก็รู้จัก มีลูกค้าเข้ามาในร้านของเขาทุกวัน ที่เขาติดสินใจรับสปอนจ์บ็อบเป็นพนักงาน เพราะก่อนหน้านั้น สปอนจ์บ็อบต้องการหางานทำ จึงมาขอสมัครเป็นพนักงาน ซึ่งมิสเตอร์แครบก็ให้ฝึกงานหนักก่อนจะบรรจุให้เป็นพนักงานจริง ในตอนนั้นมีลูกค้ากรูกันเข้ามาในร้านพร้อมกัน 5 ราย ทำให้เกิดชุลมุนกันขึ้นมา สปอนจ์บ็อบรีบบึ่งเข้าไปในครัวเพื่อทำเมนูเบอร์เกอร์ "Krabby Patty" ให้ลูกค้าโดยด่วน แน่นอนว่าเขาไม่เคยทำมันมาก่อน แต่หลังจากนั้นเรื่องยุ่งๆ ก็ผ่านไปได้ด้วยดีโดยลูกค้าทั้ง 5 นั้นกลับไปด้วยความพึงพอใจ มิสเตอร์แครบเห็นว่าสปอนจ์บ็อบมีแววเกิดแน่ๆ จึงรับไว้เป็นพนักงานเต็มตัว
มิสเตอร์แครบ มีศัตรูตัวฉกาจคือ แพลงค์ตอน ผู้ที่ต้องการขโมยสูตรอาหารของมิสเตอร์แครบไปเป็นของตน เขาจะไม่ยอมให้แพลงค์ตอนได้แตะต้องแม้แต่เศษเบอร์เกอร์สักชิ้น และได้เตือนสปอนจ์บ็อบ สควิดวอร์ด และพนักงานคนอื่นๆ ให้ระวังแพลงค์ตอนไว้ให้ดี ไม่ให้แพลงค์ตอนขโมยสูตรไปได้
>> แพลงค์ตอน
Sheldon J. Plankton
นิสัย : ฉลาดเป็นกรด เจ้าเล่ห์ จอมแผนการ ชอบเล่นตุกติก
งานอดิเรก : "สร้างความร้าวฉานคืองานของเขา"
ชอบ : เบอร์เกอร์ "Krabby Patty"
เกลียด : มิสเตอร์แครบ
...สิ่งมีชีวิตที่ตัวเล็กๆ แต่ความคิดไม่เล็กตามตัว อาศัยอยู่ในร้านภัตตาคารที่ตนสร้างขึ้น ชื่อว่า "Chum Bucket" ที่ไม่เคยสร้างเสร็จสักที เพราะไม่สูตรการทำอาหารซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการดำเนินกิจการ เพราะเหตุนี้เขาจึงอยากได้สูตรลับของมิสเตอร์แครบนักหนา คิดว่าถ้ามีแล้วจะทำให้ร้านตนเองยิ่งใหญ่กว่า กดดันให้ร้าน "Krusty Krab" เจ๊งไปได้ ทุกๆ วันเขาจึงร่วมมือวางแผนกันกับภรรยาของเขา ซึ่งเป็นระบบคอมพิวเตอร์ A.I. ที่ชื่อว่า "คาเรน" (KAREN) เขาพยายามทุกวิถีทางที่จะได้มาซึ่งสูตรลับมหัศจรรย์นี้ แต่ก็ล้มเหลวไปเสียทุกครั้ง (โชคดีของมิสเตอร์แครบไป..หุหุ )
Myeongdong Market
• ตลาดเมียงดง Myeongdong Market
• ตลาดเมียงดง เป็นศูนย์รวมแฟชั่นล่าสุดของเกาหลี อะไรที่กำลังอินแทรนด์มาหาดูเลือกซื้อได้จากที่นี่ ตามถนน ตรอก ซอยในย่านนี้เต็มไปด้วยร้านจำหน่ายเสื้อผ้าทั้งโลคอลแบรนด์ และแบรนด์เนมชื่อดัง รวมทั้งร้านขายเครื่องสำอาง เครื่องประดับ กระเป๋า วัยรุ่นที่มาเดินแถวนี้ แต่งตัวดูดี มีสีสันกว่าน่านอื่นๆหากอยากดูว่าสาวเกาหลีแต่งตัวแบบไหน สวยเพียงใด ต้องมาแอบดูแถวนี้รับรองไม่ผิดหวังแน่นอน
• ที่นี่มีห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่หลายแห่งทั้ง Lotte Department Store, Migliore,Shinesegae เป็นต้น ร้านรวงรอบๆก็ตกแต่งดูดี มีสไตล์ สลับกับร้านอาหาร ร้านกาแฟ ภัตตาคาร ที่ตกแต่งได้สวยงามน่ารัก เอาใจวัยรุ่นกันสุดๆ
• เมียงดง ยังเป็นศูนย์กลางของสถาบันการเงิน ธนาคาร บริษัทเงินทุนต่างๆก็ตั้งอยู่แถบนี้ รวมทั้งสำนักงานใหญ่ของ Bank of Korea และสาขาของธนาคารต่างๆที่มีในเกาหลี อาทิ Hana Bank ,City Bank,Woori Bank,Korea Exchange Bank,Kookmin Bank,Korea First Bank เพราะฉะนั้นถ้าอยากแลกเปลี่ยนเงินตรา ก็มาที่นี่ได้
• บนเนินสุดถนนเมียงดง มีโบสถ์เมียงดง (Myeongdong Cathedal Church)เข้าไปชมความงามของสถาปัตยกรรมแบบเรอเนสซองส์ยุคใหม่ ที่ก่ออิฐถือปูนแนวตะวันตกหรือจะชมจากภายนอกห่างๆก็ได้ จะเห็นหอระฆังสูงถึง 45 เมตร โบสถ์นี้สร้างมาตั้งแต่ปีค.ศ.1898 คนนับถือศาสนาคริสต์กันมากกว่า 1 ใน 3 ของประชากรทั้งหมด
• เวลาเปิดบริการ ร้านค้าส่วนใหญ่เปิด 07.00-21.00 น.ห้างเปิด 10.00-21.00 น. (เวลาที่ควรมาเดินแถบนี้ต้องเป็นช่วงเย็นๆจนถึงช่วงกลางคืน)
ที่ตลาดเมียงดงนี้จะมีเสื้อผ้า กางเกง รองเท้า น้ำหอม เครื่องสำอาง ทั้งแบบ แบรนด์เนมชื่อดัง และโลคอลแบรนด์ ซีดีเพลง รูปดารา ประมาณว่าอะไรที่วัยรุ่นต้องการก็สามารถหาได้จากที่ตลาดนี้เลยทีเดียว อย่างร้านเครื่องสำอางที่คุ้นหูคนไทยก็ Etude, The Face Shop, Skin Food ร้านพวกหาได้ไม่ยากในตลาดแห่งนี้ แถมไม่ได้มีแค่อย่างล่ะหนึ่งร้านอีกด้วยประมาณว่าเพิ่งออกจากร้าน Etude มาเดินไปอีกสักพักก็ เจอร้าน Etude อีกหล่ะ Skin Food , The Face Shop ก็เช่นเดียวกัน ตอนแรกคิดว่าหลงทางหรือป่าว แต่จริง ๆ แล้วไม่ได้หลงหรอกค่ะ เค้ามีเยอะจริง ๆ ที่สำคัญราคาเครื่องสำอางจะถูกถูกกว่าประเทศไทย แถมบางรุ่นไม่มีขายในประเทศไทยด้วยนะ แต่ก็ระวังกระเป๋าฉีกนะเพราะไม่ว่าอะไรก็ยั่วยวนชวนให้น่าไปซื้อไปหมดถ้าห้ามใจไม่อยู่สงสัยจะลำบาก
วันอาทิตย์ที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2553
ประเทศออสเตรเลีย
ประเทศออสเตรเลียตั้งอยู่ที่ใด?
ออสเตรเลียตั้งอยู่ทางใต้ของประเทศอินโดนีเซียและหมู่เกาะปาปัวนิวกินี อยู่ระหว่างมหาสมุทรแปซิฟิคและมหาสมุทรอินเดีย มีพื้นที่วัดจากทิศตะวันออก ถึงทิศตะวันตกมีระยะทาง 4,000 กิโลเมตร และจากทิศเหนือถึงทิศใต้มีระยะทาง 3,200 กิโลเมตร
Ø ออสเตรเลียมีพื้นที่เป็นหนึ่งในทวีปทั้ง 7 ของโลกและ มีพื้นที่ทั้งหมด 7,682,300 ตารางกิโลเมตร
Ø ขนาดของออสเตรเลียจะเท่ากับของประเทศสหรัฐอเมริกา (ไม่รวมอะลาสกา) หรือเท่ากับประเทศในเอเชียตะวันออก เฉียงใต้รวมกัน หรือเท่ากับพื้นที่ 3 ใน 4 ของประเทศจีน
Ø เมืองหลวงของออสเตรเลีย : เมืองแคนเบอร่า (ได้รับการก่อตั้งในปี ค.ศ. 1927 มีจำนวนประชากร: 311,000 คน)
Ø จำนวนประชากรของออสเตรเลีย : 19 ล้านคน และมีอัตราการเจริญเติบโต 1.2 % รัฐที่มีจำนวนประชากรมากที่สุด คือ
รัฐนิวเซาท์เวลส์ และรัฐวิคตอเรีย บริเวณที่มีประชากรอาศัยอยู่หนาแน่นที่สุด คือบริเวณชายฝั่งทางตะวันออกของประเทศ ในขณะที่บริเวณ ตอนกลางของประเทศจะมีประชากรอยู่น้อยที่สุด ชาวอะบอริจินเป็นชนชาติแรกที่มาตั้งรกรากในออสเตรเลีย
Ø ภาษา : ภาษาอังกฤษเป็นภาษาทางราชการของออสเตรเลีย แต่ภาษาอิตาเลียน, กรีก และภาษาในประเทศแถบเอเชียก็มีใช้เฉพาะ ในกลุ่มนั้นด้วย
Ø ศาสนา: ศาสนาคริสต์เป็นศาสนาที่ประชากรส่วนใหญ่นับถือ (ประมาณ 75%ของประชากรทั้งหมด) แต่ก็มีการนับถือศาสนาอื่นๆด้วย โดยจะมีทั้งโบสถ์ มัสยิด วัดและโบสถ์ของชาวยิวตั้งอยู่ตามเมืองสำคัญๆ
ภูมิอากาศ: โดยส่วนใหญ่จะมีสภาพอากาศแบ่งออกเป็น 2 เขต:
* ในตอนเหนือ, เหนือจากเส้นศูนย์สูตรของโลก พื้นที่ประมาณ 40 % ของออสเตรเลีย เป็นอากาศ ใน เขตร้อน
* บริเวณพื้นที่ที่เหลืออยู่ในเขตตอนใต้ของเส้นศูนย์สูตร มีลักษณะอากาศที่อบอุ่นอย่างไรก็ตามเนื่องจากออสเตรเลียมีพื้นที่กว้างขวางมาก
จึงทำให้มีภูมิอากาศที่หลากหลาย
· ภูมิอากาศจะแบ่งออกเป็น 4 ฤดูซึ่งจะมีฤดูที่ตรงข้ามกับเขตซีกโลกทางเหนือ
o ฤดูใบไม้ผลิ : กันยายน - พฤศจิกายน
o ฤดูร้อน : ธันวาคม - กุมภาพันธ์
o ฤดูใบไม้ร่วง : มีนาคม - พฤษภาคม
o ฤดูหนาว : มิถุนายน - สิงหาคม
ออสเตรเลียตั้งอยู่ทางใต้ของประเทศอินโดนีเซียและหมู่เกาะปาปัวนิวกินี อยู่ระหว่างมหาสมุทรแปซิฟิคและมหาสมุทรอินเดีย มีพื้นที่วัดจากทิศตะวันออก ถึงทิศตะวันตกมีระยะทาง 4,000 กิโลเมตร และจากทิศเหนือถึงทิศใต้มีระยะทาง 3,200 กิโลเมตร
Ø ออสเตรเลียมีพื้นที่เป็นหนึ่งในทวีปทั้ง 7 ของโลกและ มีพื้นที่ทั้งหมด 7,682,300 ตารางกิโลเมตร
Ø ขนาดของออสเตรเลียจะเท่ากับของประเทศสหรัฐอเมริกา (ไม่รวมอะลาสกา) หรือเท่ากับประเทศในเอเชียตะวันออก เฉียงใต้รวมกัน หรือเท่ากับพื้นที่ 3 ใน 4 ของประเทศจีน
Ø เมืองหลวงของออสเตรเลีย : เมืองแคนเบอร่า (ได้รับการก่อตั้งในปี ค.ศ. 1927 มีจำนวนประชากร: 311,000 คน)
Ø จำนวนประชากรของออสเตรเลีย : 19 ล้านคน และมีอัตราการเจริญเติบโต 1.2 % รัฐที่มีจำนวนประชากรมากที่สุด คือ
รัฐนิวเซาท์เวลส์ และรัฐวิคตอเรีย บริเวณที่มีประชากรอาศัยอยู่หนาแน่นที่สุด คือบริเวณชายฝั่งทางตะวันออกของประเทศ ในขณะที่บริเวณ ตอนกลางของประเทศจะมีประชากรอยู่น้อยที่สุด ชาวอะบอริจินเป็นชนชาติแรกที่มาตั้งรกรากในออสเตรเลีย
Ø ภาษา : ภาษาอังกฤษเป็นภาษาทางราชการของออสเตรเลีย แต่ภาษาอิตาเลียน, กรีก และภาษาในประเทศแถบเอเชียก็มีใช้เฉพาะ ในกลุ่มนั้นด้วย
Ø ศาสนา: ศาสนาคริสต์เป็นศาสนาที่ประชากรส่วนใหญ่นับถือ (ประมาณ 75%ของประชากรทั้งหมด) แต่ก็มีการนับถือศาสนาอื่นๆด้วย โดยจะมีทั้งโบสถ์ มัสยิด วัดและโบสถ์ของชาวยิวตั้งอยู่ตามเมืองสำคัญๆ
ภูมิอากาศ: โดยส่วนใหญ่จะมีสภาพอากาศแบ่งออกเป็น 2 เขต:
* ในตอนเหนือ, เหนือจากเส้นศูนย์สูตรของโลก พื้นที่ประมาณ 40 % ของออสเตรเลีย เป็นอากาศ ใน เขตร้อน
* บริเวณพื้นที่ที่เหลืออยู่ในเขตตอนใต้ของเส้นศูนย์สูตร มีลักษณะอากาศที่อบอุ่นอย่างไรก็ตามเนื่องจากออสเตรเลียมีพื้นที่กว้างขวางมาก
จึงทำให้มีภูมิอากาศที่หลากหลาย
· ภูมิอากาศจะแบ่งออกเป็น 4 ฤดูซึ่งจะมีฤดูที่ตรงข้ามกับเขตซีกโลกทางเหนือ
o ฤดูใบไม้ผลิ : กันยายน - พฤศจิกายน
o ฤดูร้อน : ธันวาคม - กุมภาพันธ์
o ฤดูใบไม้ร่วง : มีนาคม - พฤษภาคม
o ฤดูหนาว : มิถุนายน - สิงหาคม
มีวิธีทำซูชิมาเสนอคร๊
มาดูวิธีการทำ ซูชิ กันดีกว่า
ส่วนผสมน้ำซูชิ
น้ำส้มสายชู 4 ถ้วย
น้ำตาลทราย 4 ถ้วย
เกลือป่น 1 + 1/ 2 ช้อนโต๊ะ
สาหร่าย (ไม่ต้องมากนะ)
วิธีทำน้ำซูชิ
ผสมน้ำส้มสายชู น้ำตาลทราย และ เกลือป่น ใส่ลงในหม้อ ยกขึ้นตั้งไฟกลางพอเดือด แล้วใส่สาหร่ายลงไป เคี่ยวต่ออีก 2 - 3 นาที จากนั้น ยกลง กรองเอาแต่น้ำใส ๆ ว่างไว้ให้เย็นก่อนนะ ถ้าเหลือใช้แล้ว ก็เก็บใส่ขวดแก้ว ปิดฝา แช่ไว้ในตู้เย็นไว้ใช้ในครั้งต่อไปได้อีกนะ
เครื่องปรุงข้าวซูชิ
ข้าวสารเจ้า 6 ถ้วย ใช้ข้าวบ้านเราก็ได้ ไม่ต้องใช้ข้าวญี่ปุ่นหรอก เพราะข้าวญี่ปุ่นแพงมาก
ข้าวเหนียว 2 ถ้วย
น้ำซูชิ 1 /2 ถ้วย
น้ำ สำหรับหุ้งข้าว
วิธีหุงข้าวซูชิ
ซาวข้าวเจ้า ข้าวเหนียว ใส่ลงในหม้อ ใส่น้ำซูชิ น้ำ ตามสัดส่วน หุงประมาณ 20 นาที จนสุกนุ่ม เมื่อสุกแล้วเราลองชิมรสชาติของข้าวดูก่อนว่า จีดไปไหมหรือมีรสชาติไหม ถ้ารสชาติไม่ดีเราก็สามารถ ใส่นำ้ซูชิลงไปผสมในข้าวอีกได้ แต่ต้องคลุกเคล้าให้เข้ากันนะ
เมื่อทุกอย่างเสร็จแล้วเราก็นำข้าวมาปั้นเป็นก้อน และเอา วาซาบิ(เพียงเล็กน้อย) ป้ายบนข้าว แล้วก็ว่างหน้าปลา หน้ากุ้ง หรือหน้าปลาหมึก ลงไปบนข้าวที่ปั้นเสร็จแล้ว
ส่วนผสมน้ำซูชิ
น้ำส้มสายชู 4 ถ้วย
น้ำตาลทราย 4 ถ้วย
เกลือป่น 1 + 1/ 2 ช้อนโต๊ะ
สาหร่าย (ไม่ต้องมากนะ)
วิธีทำน้ำซูชิ
ผสมน้ำส้มสายชู น้ำตาลทราย และ เกลือป่น ใส่ลงในหม้อ ยกขึ้นตั้งไฟกลางพอเดือด แล้วใส่สาหร่ายลงไป เคี่ยวต่ออีก 2 - 3 นาที จากนั้น ยกลง กรองเอาแต่น้ำใส ๆ ว่างไว้ให้เย็นก่อนนะ ถ้าเหลือใช้แล้ว ก็เก็บใส่ขวดแก้ว ปิดฝา แช่ไว้ในตู้เย็นไว้ใช้ในครั้งต่อไปได้อีกนะ
เครื่องปรุงข้าวซูชิ
ข้าวสารเจ้า 6 ถ้วย ใช้ข้าวบ้านเราก็ได้ ไม่ต้องใช้ข้าวญี่ปุ่นหรอก เพราะข้าวญี่ปุ่นแพงมาก
ข้าวเหนียว 2 ถ้วย
น้ำซูชิ 1 /2 ถ้วย
น้ำ สำหรับหุ้งข้าว
วิธีหุงข้าวซูชิ
ซาวข้าวเจ้า ข้าวเหนียว ใส่ลงในหม้อ ใส่น้ำซูชิ น้ำ ตามสัดส่วน หุงประมาณ 20 นาที จนสุกนุ่ม เมื่อสุกแล้วเราลองชิมรสชาติของข้าวดูก่อนว่า จีดไปไหมหรือมีรสชาติไหม ถ้ารสชาติไม่ดีเราก็สามารถ ใส่นำ้ซูชิลงไปผสมในข้าวอีกได้ แต่ต้องคลุกเคล้าให้เข้ากันนะ
เมื่อทุกอย่างเสร็จแล้วเราก็นำข้าวมาปั้นเป็นก้อน และเอา วาซาบิ(เพียงเล็กน้อย) ป้ายบนข้าว แล้วก็ว่างหน้าปลา หน้ากุ้ง หรือหน้าปลาหมึก ลงไปบนข้าวที่ปั้นเสร็จแล้ว
10 วิธีแก้หนาวแบบง่ายๆ
1.ดื่มน้ำร้อน100องศาขึ้นไปทุกๆ5นาที
2.เล่นกีฬากล้างแจ้ง เช่น วิ่งราวชิงทรัพย์
3.สวมเสื้อผ้าทับไปมาจนครบ99ชั้น
4.ห่มผ้าห่มซัก50ผืน
5.จุดไฟเผาตัวเองเป็นเวลา1ชั่วโมง
6.อาบน้ำมันเดือดๆจนผิวหนังกรอบ
7.ขุดดินให้เป็นรูแล้วลากไก่ต้มสุกลงไปกิน
8.กินเหล็กร้อนๆเป็นอาหาร
9.ฟังเพลงร้อนๆร็อคๆแล้วโยกไปโยกมา
10.นอนกลางถนนที่เป็นพื้นยางมะตอยตอนกลางวันแสกๆ
Credit: 10 วิธีแก้หนาวแบบง่ายๆ KINGRPG.net
http://www.kingrpg.net
2.เล่นกีฬากล้างแจ้ง เช่น วิ่งราวชิงทรัพย์
3.สวมเสื้อผ้าทับไปมาจนครบ99ชั้น
4.ห่มผ้าห่มซัก50ผืน
5.จุดไฟเผาตัวเองเป็นเวลา1ชั่วโมง
6.อาบน้ำมันเดือดๆจนผิวหนังกรอบ
7.ขุดดินให้เป็นรูแล้วลากไก่ต้มสุกลงไปกิน
8.กินเหล็กร้อนๆเป็นอาหาร
9.ฟังเพลงร้อนๆร็อคๆแล้วโยกไปโยกมา
10.นอนกลางถนนที่เป็นพื้นยางมะตอยตอนกลางวันแสกๆ
Credit: 10 วิธีแก้หนาวแบบง่ายๆ KINGRPG.net
http://www.kingrpg.net
วันอาทิตย์ที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2553
วันพุธที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2553
วันศุกร์ที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)