วันพฤหัสบดีที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

บันทึกการเรียน

วันที่ 3 พฤศจิกายน 2553
ทบทวนโปรแกรมที่ได้เรียนและทำไปในภาคเรียนที่ 1 ทั้ง 5 โปรแกรม
คือ 1. เกมกระดานเลข 100 ช่อง
2. เกมค้นหาอุปกรณ์กีฬา
3. sudoku 4 kid
4. โปรแกรมบัญชีพอเพียง
5. stok สินค้า

วันที่ 10 พฤศจิกายน 2553
My Web
รวมกลุ่ม ขายสินค้าลง web
โดยเขียนชื่อสมาชิก อีเมลล์ ชื่อบล็อก รวมไปถึงรายละเอียดของเว็บ

วันที่ 17 พฤศจิกายน 2553
การเพิ่ม Gadget รายชื่อลิงค์ลงบล็อก
-เพิ่มลิงค์ครู 1 ลิงค์
-เพิ่มลิงค์เพื่อนในกลุ่มของเรา 3 ลิงค์

วันที่ 24 พฤศจิกายน 2553
การค้นหาเว็บบล็อกของเราใน Google
จากผลการค้นหาประมาณ 1340 ครั้ง
-เพิ่มลิงค์เพื่อนต่างกลุ่มอีก 3 ลิงค์

วันที่ 15 ธันวาคม 2553
เพิ่มชื่อลิงค์ของครู อีก 4 ลิงค์ รวมเป็น 5 ลิงค์
-ค้นหาชื่อจากGoogle พบประมาณ 1360 เพิ่มขึ้น 20 ครั้ง

วันที่ 5 มกราคม 2554
-ค้นหาชื่อจาก Google พบประมาณ 1260 ลดลง 100 ครั้ง
-สมัคร Tip&Tick for you
-กรอก Evaluation Grop และส่งในdede4u.com

วันที่ 26 มกราคม 2554
-โพสต์ เนื้อหาลง Tip-Tick 10 เรื่อง ใน3หมวดหมู่
-สุปงาน i am i โปรแกรมงาน 5 เรื่อง ข้อมูล Blong,Tip-Tick แบบประเมิน รวมไม่ต่ำกว่า 20 หน้า
ส่งตั้งแต่ 1/2/2554 พร้อมสมุดงาน

ประวัติเครื่องประดับ

เครื่องประดับ

ประวัติความเป็นมาของเครื่องประดับ

เครื่องประดับเป็นสิ่งหนึ่งในกระแสวัฒนธรรม ที่ใช้ควบคู่มากับเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายอื่น ๆ ในสมัยโบราณการตกแต่งร่างกายใช้วิธีสักร่างกาย หรือใช้สีเขียนบนผิวหนัง การเขียนสีบนผิวหนังพบครั้งแรกในสมัยอียิปต์ เมื่อประมาณ 2,000 ปี ก่อนคริสต์ศักราช
คำว่า “สัก” ในภาษาไทย ตรงกับภาษาอังกฤษว่า Tattoo และคำว่า Tattoo มาจากภาษาไฮติว่า Tatau ซึ่งมีความหมายเกี่ยวกับ การทำเครื่องหมาย
การสักผิวหนัง เริ่มต้นในประเทศญี่ปุ่นก่อน ประมาณศตวรรษที่ 6 ก่อนคริสต์ศักราช และได้เผยแพร่จากเอเชียเข้าไปในเกาะทะเลใต้ สื่อดลใจในการสักร่างกาย ส่วนใหญ่จะสัมพันธ์กับความเชื่อทางอภินิหารและศาสนาและพวกนิยมสักผิวหนังก็มักจะเป็นพวกนักรบ ต่อมาการสักผิวและการเขียนสีบนร่างกาย ก็กลายมาเป็นการตกแต่งเพื่อความงามโดยเฉพาะนักเดินเรือชาวยุโรปหลังคริสต์ศตวรรษที่ 15 นิยมที่จะสักบนร่างกายเป็นเรื่องราวของสถานที่ที่เขาได้เดินทางไปถึงเพื่อเก็บไว้เป็นที่ระลึกว่า เขาได้เคยเดินทางไปยังที่ใดบ้าง ระหว่างคริสต์ศตวรรษที่ 19 พวกอเมริกันอินเดียนได้ระบายสีร่างกายก่อนที่จะออกสู้รบ และได้กลายเป็นศิลปะที่อยู่ในความนิยม จนกระทั่งถึงประมาณสงครามโลกครั้งที่สอง
ส่วนการแต่งกายด้วยวัตถุ มีการตกแต่งด้วยทองคำ พบหลักฐานการใช้ทองคำ มาทำเป็นเครื่องประดับในสมัยอียิปต์และกรีกโบราณเครื่องประดับเป็นสิ่งหนึ่งที่สามารถบอกประวัติความเป็นไปในสมัยประวัติศาสตร์ได้ เป็นสื่อสัญลักษณ์ที่บอกถึงวัฒนธรรม ขนบธรรมเนียม นิสัยใจคอของผู้ใช้ได้เป็นอย่างดี ดังนั้น การศึกษาทางประวัติศาสตร์ศิลป์ จึงนิยมที่จะศึกษาเรื่องราวของเครื่องประดับร่วมไปด้วย เพราะเครื่องประดับ นอกจากจะใช้ประดับร่างกายเพื่อความสวยงามแล้ว ยังบอกตำแหน่ง ฐานะ ยศศักดิ์ได้อเมริกันอินเดียน ที่อยู่ตามเผ่าต่าง ๆ จะใช้สีหรือขนนกประดับประดาร่างกาย และสีหรือขนนกจะบอกตำแหน่งของผู้ใช้ ในขณะเดียวกันเครื่องประดับยังบอกฐานะทางเศรษฐกิจของเจ้าของได้อีกด้วย

ลักษณะเครื่องประดับในอดีตและปัจจุบัน

แต่แรกเริ่ม งานเครื่องประดับเริ่มจากฝีมือช่างจากฝีมือช่างไปสู่ชนชั้นสูง งานเครื่องประดับสนองความต้องการของชนชั้นสูงมากกว่าชนชั้นต่ำ ทั้งนี้เนื่องจากอำนาจและสภาพทางเศรษฐกิจนั่นเอง สาเหตุที่งานเครื่องประดับเกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจ เพราะลักษณะงานเครื่องประดับในยุคนั้นทำจากวัสดุที่มีราคาแพง เช่น ทองคำ เพชร พลอย เป็นต้น และจนปัจจุบันนี้งานเครื่องประดับก็ยังเป็นลักษณะงานที่ทำจากวัสดุที่มีราคาแพงอยู่ แม้จะเปลี่ยนวัสดุมาใช้สิ่งของราคาถูกลงบ้างก็ตาม
ทางตะวันตก ประมาณคริสต์ศตวรรษที่ 16 การตกแต่งร่างกายอย่างเสมอภาคได้เริ่มขึ้น เครื่องประดับมีบทบาทต่อชนชั้นกลาง และจากผลงานที่ทำด้วยมือเริ่มเปลี่ยนเป็นใช้เครื่องจักร และเริ่มเป็นอุตสาหกรรมในคริสต์ศตวรรษที่ 19 ศิลปะเครื่องประดับในสมัยที่รับใช้ชนชั้นสูงผู้มีอำนาจ จะมีลักษณะเป็นงานฝีมือเน้นความ
วิจิตรพิสดารเป็นหลักมีรูปแบบประเพณีสืบต่อกันมาถึงสมัยอุตสาหกรรม รูปแบบเครื่องประดับก็ถูกผลิตเหมือน ๆ กันเป็นงานตลาดขาดความเด่นชัดและสร้างสรรค์เฉพาะชิ้นเฉพาะอัน พอถึงศตวรรษนี้ เมื่อศิลปะรอบตัวเน้นความคิดสร้างสรรค์ และบุคลิกเฉพาะของศิลปินแต่ละคน เครื่องประดับก็พัฒนาไปอีกก้าวหนึ่ง เริ่มหันมาเน้นการออแบบเฉพาะชิ้น เน้นความคิด
สร้างสรรค์ของรูปแบบ โดยมีรูปแบบเป็นเอกลักษณ์ของศิลปินแต่ละคน
เครื่องประดับในปัจจุบันถือกันว่าเป็นงานวิจิตรศิลป์ เป็นลักษณะงานที่เกี่ยวข้องกับสุนทรียภาพ มีความงดงามสมบูรณ์อยู่ในตัวของมันเอง และในขณะเดียวกัน ก็เป็นสื่อสัญลักษณ์ของการแต่งงาน เป็นสัญลักษณ์ของการเกิดและชัยชนะในบางครั้งในขณะเดียวกันก็เป็นสัญลักษณ์ของความมั่งคั่งด้วย แม้จะได้มีการวิเคราะห์กันแล้วว่าประโยชน์ของเครื่องประดับจะมีอยู่น้อยก็ตามแต่ตราบใดที่คนมีสุนทรียภาพอยู่ในจิตใจ ศิลปะเครื่องประดับก็จะยังคงมีอยู่ตลอดไป งานเครื่องประดับเป็นงานที่เกี่ยวข้องกับความคิดสร้างสรรค์อันทรงคุณค่าของนักออกแบบการออกแบบจึงเป็นหัวใจสำคัญยิ่งของการทำเครื่องประดับ ใครที่พอจะออกแบบได้ และขยันที่จะนำสิ่งต่าง ๆ มาปะติดปะต่อเข้าด้วยกัน ก็สามารถที่จะสร้างสรรค์เครื่องประดับสำหรับตนเองขึ้นได้ ตามวิถีทางเศรษฐกิจและวิถีทางแฟชั่นปัจจุบัน ผลักดันให้เครื่องประดับประดาร่างกายที่ราคาแพง เช่น เพชรนิลจินดาเริ่มลดความสำคัญลง จะยังหลงเหลืออยู่ในสังคมที่เห่อเหิมฟุ้งเฟ้ออวดความมั่งมีต่อกัน การได้ออกแบบเอง
ได้สร้างสรรค์สิ่งของขึ้นใช้เอง เป็นความภาคภูมิใจ ประหยัด และงดงามอย่างมีเอกลักษณ์

ต่างหูรูป สุด hip

ต่างหูสีดำรูปนกฮูก
ราคา 195
ต่างหูรูปดอกกุหลาบสีดำสุดเก๋
ราคา 150 บาท
ต่างหูรูปปลาโลมาสุดน่ารัก
ราคา 150 บาท
ต่างหู ละย้า
ราคา 150 บาท

สร้อยคอ สุดเก๋ไก๋

สร้อยคอสุด hip
ราคา 260 บาท